สหรัฐทุ่ม $735 ล้าน เปลี่ยนรถบรรทุก-รถโดยสาร เป็นรถไฟฟ้า

สหรัฐฯ ทุ่มงบ 735 ล้านดอลลาร์ สนับสนุนการเปลี่ยนรถบรรทุกและรถโดยสารขนาดใหญ่สู่ระบบปล่อยมลพิษเป็นศูนย์

หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (EPA) ประกาศจัดสรรงบประมาณมหาศาลถึง 735 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนโครงการเปลี่ยนรถบรรทุกและรถโดยสารขนาดใหญ่ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้เป็นรถยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero-Emission Vehicles: ZEV) โครงการนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมทั้งหมด 70 ราย และจะนำไปสู่การเปลี่ยนรถยนต์กว่า 2,400 คัน โดยประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ในการจัดซื้อรถโดยสารโรงเรียนที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์

การลงทุนครั้งสำคัญนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน การใช้รถยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ไม่เพียงแต่ช่วยลดมลภาวะทางอากาศในชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะในบริเวณโรงเรียนและพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ลดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ การใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

ตามรายงานของ Electrive (https://www.electrive.com/2024/12/12/us-funds-replacement-of-over-2400-ice-trucks-and-buses-with-zev-alternatives/) การจัดสรรงบประมาณครั้งนี้ครอบคลุมการเปลี่ยนรถบรรทุกและรถโดยสารขนาดใหญ่หลากหลายประเภท โดยเน้นหนักไปที่รถโดยสารโรงเรียน ซึ่งเป็นการลงทุนที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตเด็กนักเรียนและชุมชนโดยตรง การมีรถโดยสารโรงเรียนที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์จะช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของเด็กๆ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสะอาดยิ่งขึ้น

การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ไม่เพียงแต่รัฐบาลเท่านั้นที่ต้องมีบทบาทสำคัญ แต่ภาคเอกชน ผู้ผลิต และประชาชนเองก็ต้องร่วมมือกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การใช้งานรถยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์เป็นไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การสนับสนุนด้านนโยบาย การให้ความรู้ และการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของรถยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ก็จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนหันมาใช้รถยนต์ประเภทนี้มากขึ้น การลดภาษี การให้ส่วนลด และการอำนวยความสะดวกต่างๆ ล้วนเป็นแรงจูงใจที่สำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง

การลงทุน 735 ล้านดอลลาร์ของ EPA จึงไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนรถยนต์ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตที่ยั่งยืน เป็นการลงทุนในสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจของประเทศ การเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์เป็นความท้าทาย แต่ก็เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างสังคมที่สะอาด ปลอดภัย และยั่งยืน สำหรับทั้งคนรุ่นปัจจุบันและคนรุ่นอนาคต และหวังว่า การลงทุนครั้งนี้จะกระตุ้นให้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาและใช้ระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเช่นกัน

#ขายรถไฟฟ้ามือสอง #รถมือสองเจ้าของขายเอง #รถเก๋งไฟฟ้ามือสอง #รถเก๋งไฟฟ้ามือสอง #รถยนต์ไฟฟ้ามือสอง #รถไฟฟ้ามือสอง #รถEVมือสอง #ev2car

Scroll to Top