BMW กำลังทุ่มเทกับการพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง ด้วยการนำรถยนต์ต้นแบบ BMW iX5 Hydrogen จำนวน 100 คัน มาทดสอบใช้งานจริง เป้าหมายคือการเปิดตัวรถยนต์รุ่นผลิตจำนวนมากที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนในช่วงปลายทศวรรษนี้ เว็บไซต์ electrive ได้มีโอกาสทดสอบขับขี่รถต้นแบบคันหนึ่งอย่างละเอียด และพบว่าระบบขับเคลื่อนมีความสมบูรณ์สูง แต่ประโยชน์ใช้งานจริงกลับยังเป็นที่น่ากังขา
การทดสอบของ electrive เผยให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนด้วยเซลล์เชื้อเพลิงใน BMW iX5 Hydrogen ที่น่าประทับใจ อัตราเร่งและความเร็วสูงสุดนั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจ การตอบสนองของรถมีความคล่องตัว ไม่ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปที่ใช้แบตเตอรี่ ประสบการณ์การขับขี่โดยรวมนั้นราบรื่นและสะดวกสบาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ BMW อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่ electrive ตั้งคำถามคือ ความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ในการใช้งานจริงในเชิงพาณิชย์
ปัจจุบัน โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเติมไฮโดรเจนยังมีอยู่อย่างจำกัด สถานีเติมไฮโดรเจนยังมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับสถานีชาร์จไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงมาใช้งานอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนและการก่อสร้างสถานีเติมไฮโดรเจนยังสูง ส่งผลให้ราคาขายรถยนต์และต้นทุนการใช้งานต่อหน่วยอาจสูงกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ แม้ว่าระยะเวลาในการเติมเชื้อเพลิงจะเร็วกว่าการชาร์จไฟฟ้าก็ตาม
อีกประเด็นที่น่าพิจารณาคือ ประสิทธิภาพด้านพลังงาน การผลิตไฮโดรเจนเองก็ยังมีความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต หากกระบวนการผลิตไฮโดรเจนยังใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ก็จะทำให้ข้อดีด้านสิ่งแวดล้อมของรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงลดลงอย่างมาก ดังนั้น การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความยั่งยืนของเทคโนโลยีนี้
จากข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศต่างๆ (เช่น ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เยอรมัน VDA) แสดงให้เห็นถึงการลงทุนมหาศาลในด้านแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ต่ออนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและต้องอาศัยการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
BMW iX5 Hydrogen อาจถือได้ว่าเป็นการทดลองและเรียนรู้ การทดสอบใช้งานจริงกับรถต้นแบบ 100 คันจะช่วยให้ BMW ได้ข้อมูลเชิงประจักษ์ เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีและลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม อนาคตของรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงยังคงมีความไม่แน่นอน และการแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่นั้นยังคงรุนแรง การที่ BMW จะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือและความคุ้มค่าให้กับรถยนต์ไฮโดรเจนได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
#ขายรถไฟฟ้ามือสอง #รถมือสองเจ้าของขายเอง #รถเก๋งไฟฟ้ามือสอง #รถเก๋งไฟฟ้ามือสอง #รถยนต์ไฟฟ้ามือสอง #รถไฟฟ้ามือสอง #รถEVมือสอง #ev2car