ราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะลดลงอย่างมากในอีกสองปีข้างหน้า ตามรายงานใหม่จาก Goldman Sachs รายงานระบุว่าราคาแบตเตอรี่เฉลี่ยทั่วโลกในระดับแพ็ค ลดลงจาก 153 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ในปี 2022 เหลือ 149 ดอลลาร์สหรัฐต่อ kWh ในปี 2023 และคาดการณ์ว่าจะลดลงต่อไปจนถึง 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อ kWh ภายในปี 2026 นั่นหมายความว่าราคาแบตเตอรี่จะลดลงเกือบครึ่งหนึ่งภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี
การลดลงของราคาแบตเตอรี่นี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ราคาแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างมากจะทำให้ต้นทุนการผลิตของรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในสู่รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ
การคาดการณ์ของ Goldman Sachs สอดคล้องกับแนวโน้มการลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลก ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาแบตเตอรี่ลดลง ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิต การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และการลดต้นทุนวัตถุดิบ เช่น ลิเธียม โคบอลต์ และนิกเกิล การขยายตัวของโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทั่วโลก เช่น โรงงานของ CATL LG Energy Solution และ Panasonic ทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น และผลักดันให้ราคาแบตเตอรี่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ๆ เช่น แบตเตอรี่โซลิดสเตต (Solid-State Battery) ซึ่งมีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย ก็มีส่วนช่วยลดต้นทุนในระยะยาว แม้ว่าเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่การลงทุนอย่างต่อเนื่องจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์และเทคโนโลยี ชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้จะกลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้
อย่างไรก็ตาม การลดลงของราคาแบตเตอรี่อาจไม่ได้เกิดขึ้นอย่างราบรื่น ปัจจัยต่างๆ เช่น ความผันผวนของราคาแร่ธาตุ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และความต้องการแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อการลดลงของราคา แต่โดยรวมแล้ว แนวโน้มการลดราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นบวก และเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
การลดลงของราคาแบตเตอรี่จะไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกของรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองด้วย รถยนต์ไฟฟ้ามือสองที่มีราคาถูกลง จะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และเข้าถึงเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองจึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า การเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ง่ายและราคาไม่แพง จะช่วยให้ประเทศต่างๆ บรรลุเป้าหมายด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการสร้างระบบนิเวศน์ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ยั่งยืน
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ รวมถึงการลดลงอย่างต่อเนื่องของราคา เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก ในอนาคต เราอาจได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น ทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่โลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นและยั่งยืน
#ขายรถไฟฟ้ามือสอง #รถมือสองเจ้าของขายเอง #รถเก๋งไฟฟ้ามือสอง #รถเก๋งไฟฟ้ามือสอง #รถยนต์ไฟฟ้ามือสอง #รถไฟฟ้ามือสอง #รถEVมือสอง #ev2car